Tuesday, 16 June 2015

คำให้การในฐานะพยานของพ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรรัตน์กรณีการสลายการชุมนุมของทหารในวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2553


นี่คือคำให้การในฐานะพยานของพ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรรัตน์กรณีการสลายการชุมนุมของทหารในวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 ลงวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2554 คำให้การที่สำคัญคือมีการใช้กำลังเกินกว่าเหตุต่อผู้ชุมนุมในปี 2553 ในเอกสาร เราขีดทับข้อมูลส่วนตัวของพ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรรัตน์

พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรรัตน์ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี [ในปลายปี 2551] เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน (พปช.)

เขากล่าวว่าเขาเป็นผู้สนับสนุนนปช.และเข้าร่วมชุมนุม
เขากล่าวว่าเมื่อรัฐบาลสลายการชุมนุมนปช.ปี 2552 ผู้ชุมนุมได้ปิดแยกสามเหลี่ยมดินแดงและพบอาวุธสงครามจำนวนมากให้รถบรรทุของทหาร อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่พวกเขาพบอาวุธ พวกเขาก็จะส่งคืนให้ทางตำรวจ แสดงให้เห็นว่านปช. ชุมนุมอย่างสงบ มิได้มิเจตจำนงค์ที่จะใช้อาวุธเหล่านั้นต่อสู้กับทหาร
ในปี 2553 ผู้ชุมนุมนปช.ได้กลับมาชุมนุมอีกครั้งเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภาและจัดการเลือกตั้งทั่วไป และการชุมนุมก็เป็นการชุมนุมที่สงบด้วยเช่นกัน


เมื่อถูกถามว่าเขาคิดว่าการสลายการชุมนุมของทหารนั้นถูกต้องตามหลักสากลหรือไม่ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรรัตน์กล่าวว่าไม่ เพราะไม่มีการเจรจา และแม้การเจรจาล้มเหลว รัฐบาลจะต้องออกประกาศเตือน และใช้กระบอง รถน้ำ หรือกระสุนยางเพื่อสลายการชุมนุมหลังจากนั้น และจะต้องไม่มีการใช้กระสุน “จริง” อย่างเด็ดขาด แต่ในะระหว่างการสลายการชุมนุมในวันที่ 19 พฤษภาคมมีการใช้กระสุนจริง และเอกสารของศอฉ.ยังยืนยันโดยระบุว่าในระหว่างการสลายการชุมนุมในเดือนเมษายน/พฤษภาคม ทหารใช้กระสุนจริง 120,000 นัด และกระสุนซุ่มยิง 2,600 นัด ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 93 รายและบาดเจ็บ 2,000 ราย




Witness Statement of Police Lt-Col Wipot Apornrat Regarding Deaths at Wat Patum, May 2010

This is the witness statement of Police Lieutenant-Colonel Wipot Apornrat regarding the army crackdown on May 19, 2010. It is dated December 7, 2011. The central allegation is that disproportionate force was used against the protest in 2010. Personal details of Lt. Col. Wipot have been redacted by ourselves.

Lt-Col Wipot Apornrat was banned from political activities for five years [in late 2008] as he was an executive member of the People's Power Party (PPP).

He stated he was a UDD supporter and had also joined the protest.

He stated that when the government cracked down on the [previous] 2009 UDD protest, the protesters had blocked Din Daeng intersection and found many war weapons inside army trucks. However, every time they found such weapons3 they would return them to the police. This showed that the UDD protested peacefully - because even though they had seized weapons from the army, they had no intention of using them against the army.

In 2010, the UDD protesters returned and demanded that the government dissolve the parliament and hold a general election - this protest was also peaceful.

When asked whether he thought that the army’s crackdown was consistent with international standards or not Lt-Col Wipot Apornrat stated that it was not because there was no negotiation and even if those negotiations failed, the govt must then issue the warning, then use batons, water canon and/or rubber bullets to disperse the protesters - there must strictly be no use of “live” rounds. But during the crackdown on May 19th live round bullets were used. This is backed up by CRES’s own document which indicates that during the April/May 2010 crackdown, the army used 120,000 live round bullets and 2,600 sniper bullets which resulted in 93 deaths and 2,000 injuries.




Friday, 5 June 2015

คำสั่งศาลกรณีสาเหตุการเสียชีวิตของด.ช.คุณากร ศรีสุวรรณ (อายุ 14 ปี)

การเสียชีวิตของด.ช.คุณากรทำให้ผู้นำพรรคประชาธิปัตย์นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะและนายสุเทพ เทือกสุบรรณถูกแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา อย่างไรก็ตาม แม้ว่าโดยเริ่มแรกคดีดังกล่าวจะถูกไต่สวนในศาลอาญา แต่กลับถูกส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติพิจารณาหลังการทำรัฐประหารปี 2557 นี่คือการปฏิเสธความยุติธรรมตามธรรมชาติอย่างชัดแจ้งและไม่สามารถอธิบายได้
ข้อเท็จจริงในเอกสารของศาลระบุ
ด.ช.คุณากรเป็นเด็กกำพร้าที่อาศัยอยู่ที่สถานเด็กกำพร้าองค์การสงเคราะห์มุสลิมนานาชาติ ตั้งอยู่บนถนนรามคำแหง
นักข่าวซึ่งเป็นพยานในเหตุการณ์กล่าวว่าในวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เวลาราว 23 นาฬิกา ได้พบเห็นด.ช.คุณากรวิ่งเล่นบริเวณบังเกอร์ทหารใต้สถานีรถไฟแอร์พอร์ตลิงค์แยกมักกะสัน [ถนนราชปรารภ]
หลังนั้นประมาณเที่ยงคืน นายสมร ไหมทองขับรถตู้บนถนนถนนราชปรารภมุ่งหน้าไปยังมักกะสันซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมโดยทหาร ทหารใช้โทรโข่งสั่งให้นายสมรขับรถออกไปจากพื้นที่แต่เขามิได้ทำเช่นนั้น ทหารจึงระดมยิงไปที่รถตู้หลายครั้ง นายสมรถูกยิงได้รับบาดเจ็บ และประชาชนอีก 2 รายคือนายพัน คำกองและด.ช.คุณากร ศรีสุวรรณ ถูกยิงเสียชีวิต
กระสุนในร่างของด.ช.คุณากร ศรีสุวรรณซึ่งเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตเป็นกระสุนความเร็วสูงที่ใช้ในอาวุธสงครามอย่างปืนเอ็ม 16 และอาก้า ศาลตรวจสอบหลักฐานและสรุปว่ากลุ่มคนที่มีอาวุธปืนเอ็ม 16 หรืออาวุธใช้กับกระสุนความเร็วสูงอื่นในบริเวณนั้นมีเพียงทหารเท่านั้น ดังนั้น ศาลจึงสรุปว่าการเสียชีวิตของด.ช.คุณากร ศรีสุวรรณเกิดจากกระสุนความเร็วสูงยิงมาจากทหาร






เอกสารลงวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ.​ 2555 และลงลายมือโดยนายสรุพล โตศักดิ์และนางสาวอิสริยา ยงพาณิชย์

Court Ruling Into The Cause Of Death Of Kunakorn Srisuwan (aged 14)

The death of Kunakorn resulted in the prosecution for murder of Democrat Party's Abhisit Vejjajiva and Suthep Thuagsuban. However, despite the case initially being heard in the Criminal Court, since the 2014 military coup it has been moved to the National Anti Corruption Commission. This is inexplicable and a clear denial of natural justice.

A précis of the court document follows.
 

Kunakorn was a 14year old orphan who resided at the International Islamic Relief Organisation orphanage on Ramkanhaeng Road. 

A journalist who witnessed events  stated that on May 14, 2010 around 11pm they saw Kunakorn running around and playing near the army’s barricade under the airport link train station at Makkasan Junction [Ratchaprarop Rd].

Then, around midnight, Mr. Samorn Maithong drove his van on Ratchaprarop road heading towards Makkasan, an area that was controlled by the army. The authorities used a megaphone to order Mr. Samorn to drive his van out of the area but he failed to do so. The soldiers then opened fire on the van, firing many times and Mr. Samorn was shot and injured and two other people, Mr. Phan Kamklong and Kunakorn Srisuwan were shot and killed 


The bullet found in Kunakorn Srisuwan that killed him was a high velocity bullet of the type used by war weapons such as an M16 or AK47.  The court examined the evidence and concluded the only persons with M16s or other high velocity war weapons in that area were Thai Army soldiers. Therefore the court ruled that Kunakorn Srisuwan’s death was caused by a bullet fired by the Thai Army soldiers.
This document was dated December 20, 2012 and signed by Mr Suraphon Tosak & Ms Issariya Yongpanit.